Back บทความ
กฎเหล็ก 5 ใส่สายเอี๊ยม (Suspenders) อย่างไรไม่ให้ดูเป็น “ลุง”
พ.ค.
เมื่อพูดถึง สายเอี๊ยม หลายคนอาจนึกถึงภาพคุณลุงสมัยก่อนที่ใส่กางเกงเอวสูงกับสายเอี๊ยมเส้นใหญ่ๆ แต่ในความเป็นจริง “สายเอี๊ยม” กลับกลายเป็นแฟชั่นไอเทมสุดคลาสสิกที่สามารถใส่ให้ดูเท่ สมาร์ท และมีสไตล์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ! แค่ต้องรู้วิธีจับคู่ให้ดี และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ลุคคุณจาก “หนุ่ม Gentleman” กลายเป็น “คุณลุง” ไปแบบไม่รู้ตัว
เพนาะฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 กฎเหล็กที่ควรรู้เมื่อใส่สายเอี๊ยม เพื่อให้คุณดูดีแบบวินเทจเท่ ๆ ไม่หลงยุค ไม่แก่เกินวัย พร้อมทั้งไอเดียการมิกซ์แอนด์แมทช์ที่ช่วยเสริมลุคให้ดูโปรและมีสไตล์แบบผู้ชายยุคใหม่กันค่ะ
สายเอี๊ยมคืออะไร? แล้วใส่ไปทำไม?
ก่อนจะไปถึง “กฎเหล็ก 5 ข้อเมื่อใส่สายเอี๊ยม เพื่อไม่ให้ดูเป็นลุง” เรามาทำความรู้จักกับ “สายเอี๊ยม” กันก่อนดีกว่า ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร และใส่ไปทำไม?
สายเอี๊ยม (Suspenders) คืออะไร?
สายเอี๊ยม คือสายผ้ายาวสองเส้นที่ไขว้จากไหล่ไปยังกางเกงด้านหน้าและด้านหลัง มีหน้าที่หลักคือช่วย “พยุงกางเกง” ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยไม่ต้องพึ่งพาเข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กางเกงไม่รั้งบริเวณเอว และให้ทรงกางเกงดูเรียบร้อย สะอาดตา
โดยทั่วไป สายเอี๊ยมจะมีอยู่สองประเภทหลัก ๆ คือ
- แบบคลิปหนีบ ใช้งานง่าย หนีบกับขอบกางเกงได้ทันที
- แบบกระดุม ใช้ร่วมกับกางเกงที่มีหูสำหรับติดกระดุมสายเอี๊ยม ซึ่งมักพบในเสื้อผ้าแบบคลาสสิกหรือสูทแบบดั้งเดิม
ไม่เพียงแต่ใช้งานได้จริงเท่านั้น เพราะสายเอี๊ยมยังถือเป็นหนึ่งใน “ไอเทมแฟชั่นผู้ชาย” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ชายที่เลือกใส่สายเอี๊ยมมักเป็นคนที่มีสไตล์เฉพาะตัว กล้าแต่งตัวอย่างแตกต่าง และใส่ใจรายละเอียดของการแต่งกาย
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของสายเอี๊ยม
สายเอี๊ยมไม่ได้เพิ่งฮิตในยุคนี้ แต่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แล้ว! จุดเริ่มต้นของสายเอี๊ยมเกิดขึ้นในฝรั่งเศส ราวปลายทศวรรษ 1700s โดยในตอนนั้นผู้ชายเริ่มใช้แถบผ้าหรือสายคาดไหล่เพื่อยึดกางเกงไม่ให้หลุด เพราะในยุคนั้นกางเกงยังไม่มีกระดุมหรือซิปเหมือนปัจจุบัน
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้สายเอี๊ยมกลายเป็นของใช้ประจำในตู้เสื้อผ้าผู้ชายเกิดขึ้นใน ปี ค.ศ. 1820 เมื่อ Albert Thurston นักออกแบบชาวอังกฤษได้คิดค้นและผลิต “Suspenders“ รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ โดยใช้ยางยืดผสมกับผ้าทอ เพื่อให้สวมใส่สบายและใช้งานได้จริง
ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ผู้ชายเกือบทุกคนสวมสายเอี๊ยม โดยเฉพาะในโลกตะวันตก เพราะในยุคนั้นยังไม่สามารถผลิตเข็มขัดที่พอดีกับสรีระทุกคนได้เหมือนสมัยนี้ กางเกงที่มีเอวสูงมากจึงต้องการสายเอี๊ยมมาช่วยพยุงไว้นั้นเอง
แล้วทำไมผู้ชายยุคใหม่ยังใส่สายเอี๊ยม?
แม้ในปัจจุบันเข็มขัดจะกลายเป็นของที่คุ้นเคยมากกว่า แต่สายเอี๊ยมก็ยังไม่เคยหายไปจากวงการแฟชั่น โดยเฉพาะในหมู่ผู้ชายใส่ใจลุคของตัวเองและอยากเพิ่มลูกเล่นให้กับการแต่งตัวในชีวิตประจำวัน หรือใครที่หลงใหลในแฟชั่นสไตล์วินเทจ, คลาสสิก หรือสูทแบบดั้งเดิม รวมถึงผู้ที่ต้องการเปลี่ยนลุคธรรมดาให้กลายเป็นลุคที่มีเสน่ห์ในพริบตา
เหตุผลที่อาจทำให้หลายคนเลือกใส่สายเอี๊ยมแทนเข็มขัด
- ให้ทรงกางเกงดูดีขึ้น – โดยเฉพาะกางเกงสูทหรือกางเกงทรงคลาสสิกที่มีเอวสูง การใส่สายเอี๊ยมช่วยให้กางเกงดูเนี๊ยบตลอดทั้งวัน ไม่ตกไม่ร่น ไม่ต้องคอยดึง
- สวมใส่สบายกว่าที่คิด – เพราะไม่รัดแน่นตรงช่วงเอว ทำให้เวลานั่งหรือเคลื่อนไหวรู้สึกอิสระมากกว่า เหมาะทั้งกับการใส่ทำงาน ประชุม หรือไปออกงานแบบเต็มวัน
- เสริมภาพลักษณ์ให้ดูมั่นใจ – ผู้ชายที่เลือกใส่สายเอี๊ยม มักจะดูมีสไตล์เป็นของตัวเอง มีความคลาสสิกแต่ยังดูร่วมสมัย เหมือนคนที่รู้จัก “เลือกใส่” มากกว่าแค่ “หยิบมาใส่”
- เป็นจุดนำสายตาในชุดเรียบๆ – วันไหนใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงแบบธรรมดา ลองเพิ่มสายเอี๊ยมสีตัดกับเสื้อดูสิ ลุคทั้งลุคจะเปลี่ยนทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มเลเยอร์อื่นเลย
สายเอี๊ยมอาจไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย — แต่มันคือ “ภาษาที่ใช้สื่อสารผ่านการแต่งตัว” ในยุคที่ใครๆ ก็แต่งตัวคล้ายกัน ผู้ชายที่เลือกใส่สายเอี๊ยม…เหมือนกำลังสื่อบางอย่างออกมา อย่างเช่นว่า
“ผมแต่งตัวให้ดี เพราะผมรู้ว่ารายละเอียดเล็กๆ นั้นสำคัญ”
“ผมไม่กลัวที่จะดูแตกต่าง เพราะผมมั่นใจในตัวเอง”
“ผมไม่ได้แต่งตามใคร แต่ผมแต่งในแบบที่ผมเป็น”
และนั่นคือเสน่ห์ของสายเอี๊ยม สิ่งที่เข็มขัดให้ไม่ได้ แต่สายเอี๊ยม…ให้ได้เสมอ
สายเอี๊ยม ไม่ใช่ของ “คนแก่” ถ้าใส่เป็น!
แม้ สายเอี๊ยม จะมีภาพจำว่าเป็นของคู่กับ “คุณลุง” หรือ “ยุคเก่า” แต่ถ้าใส่อย่างมีชั้นเชิง รับรองว่ามันจะกลายเป็นไอเทมที่เสริมลุคให้ดูเท่ คลาสสิก และมีสไตล์เฉพาะตัวได้แบบไม่เชยเลยแม้แต่น้อย ลองมาดูกันว่า 5 ข้อห้ามพลาดนี้ มีอะไรบ้าง ถ้าอยากใส่สายเอี๊ยมแบบมีสไตล์และมั่นใจ
- ห้ามใส่สายเอี๊ยมคู่กับเข็มขัดเด็ดขาด
กฎข้อแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ สายเอี๊ยมกับเข็มขัดไม่ควรอยู่ด้วยกันในชุดเดียว เพราะทั้งสองอย่างมีหน้าที่เหมือนกันคือ “พยุงกางเกง” ถ้าใส่ทั้งคู่พร้อมกันนอกจากจะดูเยอะไปแล้ว ยังเหมือนกับว่าคุณไม่มั่นใจในการแต่งตัวของตัวเอง
จำไว้เสมอ : เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง — ถ้าจะใส่สายเอี๊ยม ก็ถอดเข็มขัดออกไปซะ - เลือกสายเอี๊ยมให้เข้ากับชุด ไม่ใช่ให้ขัดกับชุด
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ทำให้ลุคดูเป็น “ลุง” คือการเลือก สายเอี๊ยม ที่ไม่เข้ากับชุดเลย เช่น ชุดทำงานเรียบ ๆ แต่กลับเลือกสายเอี๊ยมลายการ์ตูน หรือสีจัดจ้านเกินไป แบบนั้นจะพาให้ทั้งลุคเสียสมดุล อย่างเช่น
ถ้าใส่สูทหรือกางเกงสแล็คสีเข้ม → เลือกสายเอี๊ยมสีพื้นคลาสสิก เช่น ดำ เทา กรมท่า หรือน้ำตาลเข้ม
ถ้าใส่ลุคแคชชวล → ลองสายเอี๊ยมผ้าฝ้าย หรือผ้าทอที่มี texture เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงสายเอี๊ยมที่มีลวดลายใหญ่ สีสะท้อนแสง หรือวัสดุที่ดูไม่ได้คุณภาพ - เลือก “แบบสาย” และ “แบบตัวล็อก” ให้เหมาะกับโอกาส
สายเอี๊ยมมีหลายแบบ ทั้งแบบสาย Y และแบบสาย X และยังมีแบบคลิปหนีบหรือแบบกระดุมติดกางเกงด้วย
แบบ Y-back → ดูเนี้ยบ ทันสมัย เหมาะกับงานทางการหรือใส่กับสูท
แบบ X-back → พยุงได้ดี เหมาะกับลุคแคชชวลหรือทำงาน
แบบคลิปหนีบ → ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่หรือใช้ในชีวิตประจำวัน
แบบกระดุม → คลาสสิกสุด เหมาะกับกางเกงที่ออกแบบมาให้ใส่กับสายเอี๊ยมโดยเฉพาะ - ระวังความกว้างของสาย เลือกให้พอดี ไม่ใหญ่เกินไป
สายเอี๊ยมที่หนาและใหญ่เกินไป มักทำให้ลุคดูเก่า ดูเป็นแฟชั่นยุคคุณลุงมากกว่าความวินเทจที่ดูเท่
ทางเลือกที่ดีคือ : ความกว้างประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว เป็นชขนาดที่กำลังสวยเลย และเลือกวัสดุที่มีความเรียบ ไม่เงาเกินไป ถ้าอยากได้ความคลาสสิก สายหนังแท้สีน้ำตาลหรือดำคือตัวเลือกที่เซฟที่สุด - ใส่ด้วยความมั่นใจ นี่คือหัวใจของสายเอี๊ยม
สิ่งที่ทำให้สายเอี๊ยมโดดเด่นที่สุดไม่ใช่แค่ดีไซน์ แต่คือ “ความมั่นใจของผู้ใส่” อย่ากลัวว่าใส่แล้วจะดู “ลุง” เพราะถ้าคุณใส่อย่างมั่นใจ มันจะกลายเป็นลุคที่ดู “เจ๋ง” แบบที่คนอื่นอยากแต่งตามต่างหากหล่ะ
ถ้าคุณอยากลองเปลี่ยนลุคจากเดิม ให้ดูแตกต่างและมีเอกลักษณ์มากขึ้น ลองเริ่มจากไอเทมง่าย ๆ อย่าง “สายเอี๊ยมคุณภาพดี” ที่ออกแบบมาเพื่อสุภาพบุรุษสมัยใหม่โดยเฉพาะที่ SUITCUBE เราคัดสรร สายเอี๊ยมดีไซน์เรียบ เท่ ใส่ง่าย ให้เข้ากับทั้งลุคแคชชวลและลุคทางการ มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งสายหนังคลาสสิกและแบบผ้ายืดสวมสบาย
✦ คลิกดูคอลเลกชันสายเอี๊ยมของเราได้เลยที่ SUITCUBE Suspenders Collection
แล้วคุณจะรู้ว่า…แค่เพิ่มสายเอี๊ยมเข้าไป ลุคก็เปลี่ยนจากธรรมดาเป็นคนมีสไตล์ได้ง่ายกว่าที่คิด
สาขาที่ 1 : Siam Square One ชั้น 3 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 2 : Terminal 21 ชั้น 2 ติดบันไดเลื่อนฝั่ง H&M
สาขาที่ 3 : พระราม 3 หมู่บ้านอรุณพัฒน์ เส้นสาธุประดิษฐ์ตัดใหม่
สาขาที่ 4 : The Promenade ชั้น 1 บริเวณลานน้ำพุ
สาขาที่ 5 : Seacon Square ชั้น 2 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 6 : โครงการ One Nimman เชียงใหม่
สาขาที่ 7 : ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น G โซนเซ็นทรัล บริเวณลานน้ำพุ ใกล้กับร้านสตาร์บัค
สาขาที่ 8 : เดอะมอลล์โคราช ชั้น 1 ตึกใหม่ ตรงข้าม CPS CHAPS
สาขาที่ 9 : สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 3 ติดบันไดเลื่อน ข้างคลินิก Smile Seasons
สาขาที่ 10 : เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 1 ติดกับร้าน Charles&Keith ตรงข้ามร้าน Pandora
สาขาที่ 11 : เดอะเซอร์เคิลราชพฤกษ์ โซน South Trail Walk Way ตรงข้าม MK
สาขาที่ 12 : เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 1 บริเวณบันไดเลื่อนกลาง ตรงข้ามร้าน FOOT LOCKER
สาขาที่ 13 : รัชดา-สุทธิสาร ติด MRT สุทธิสาร ทางออกที่ 4
สาขาที่ 14 : โครงการ Bukis Phuket
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel: 021077777
LINE: @suitcube
Facebook: suitcube
Instagram: suitcube
Website: www.suitcube.com
