เคยสังเกตไหมคะ ว่าเวลาที่เราอยากแต่งตัวให้ดูดีแต่ไม่อยากดูทางการเกินไป เสื้อโปโลผู้ชายมักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เราเลือกหยิบมาใส่เสมอ
แต่ทุกคนเชื่อไหมว่าเสื้อโปโลที่เราคุ้นเคยกันดีตัวนี้ จริงๆ แล้วมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจกว่าที่คิด จากเสื้อสำหรับเล่นกีฬาในสมัยก่อนกลายมาเป็นแฟชั่นไอเทมที่ใครๆ ก็ใส่กันทุกวันได้ เสื้อโปโลเดินทางมาไกลกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยค่ะ
อยากรู้ไหมว่าเสื้อโปโลมีที่มาอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นเสื้อที่ทุกคนต้องมีติดตู้? ตามมาค่ะ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง!
ที่มาน่ารู้ของเสื้อโปโลผู้ชาย
ลองนึกภาพย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 ที่อินเดีย ท่ามกลางอากาศร้อนและสนามหญ้ากว้างไกล กลุ่มสุภาพบุรุษชาวอังกฤษกำลังควบม้าเล่นกีฬาโปโลอย่างสนุกสนาน พวกเขาต้องการเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว แต่ก็ยังคงความสุภาพเอาไว้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเสื้อที่มีทั้งความยืดหยุ่นและความเรียบร้อยในตัวเดียว
เวลาผ่านไปจนถึงยุค 1920s “René Lacoste” นักเทนนิสชาวฝรั่งเศส ได้หยิบแนวคิดนี้มาต่อยอด ออกแบบเสื้อแขนสั้น ปกตั้ง และติดกระดุม 2-3 เม็ด เพื่อให้เหมาะกับการเล่นกีฬาในสไตล์ของเขา กลายเป็นเสื้อโปโลต้นแบบที่เรารู้จักกันดีจนถึงทุกวันนี้
จากสนามกีฬา เสื้อโปโลก็ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ชีวิตประจำวัน ด้วยดีไซน์ที่รวมข้อดีของเสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เสื้อโปโลกลายเป็นไอเทมสามัญที่ผู้ชายทั่วโลกเลือกใส่ได้ในทุกโอกาส
เอกลักษณ์เฉพาะของเสื้อโปโลผู้ชาย
เสื้อโปโลผู้ชายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นและไม่เหมือนใครเลย เริ่มจาก “ปกเสื้อแบบตั้ง” ที่ช่วยให้ลุคดูเรียบร้อยสุภาพกว่าการใส่เสื้อยืดขึ้นมาทันที แต่ก็ยังไม่ทางการจนเกินไปเหมือนการใส่เสื้อเชิ้ต เป็นทางสายกลางที่กำลังพอดี จะหยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็ดูดีแบบไม่ต้องพยายาม ตรงช่วงคอยังมี “กระดุม 2-3 เม็ด” ที่ให้เราเลือกได้ว่าจะติดให้เป๊ะ หรือปลดออกสักนิด เพิ่มความชิลในวันสบายๆ ก็ตามสไตล์เราเลย
เรื่องเนื้อผ้าก็เป็นอีกเสน่ห์หนึ่ง เพราะเสื้อโปโลส่วนใหญ่ทำจาก “ผ้า Piqué” ที่มีผิวสัมผัสที่ดูหรูนิดๆ เนื้อนุ่ม เบา ใส่แล้วระบายอากาศได้ดี เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเราที่สุด
และที่หลายคนชอบคือ “ความยืดหยุ่นของดีไซน์” จะปล่อยชายเสื้อทับกางเกงหรือสอดในกางเกงก็ได้ลุคดีไม่แพ้กัน เสื้อโปโลจึงเป็นเหมือนตัวแทนของคำว่า “ง่ายแต่ดูดี” กลายเป็น Must-Have ที่ผู้ชาย (และหลายๆ คน) ต้องมีติดตู้!
คู่มือเลือกเสื้อโปโลสำหรับผู้ชาย : ทรง ผ้า และสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ
เสื้อโปโลเป็นไอเทมที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมีดีไซน์ที่ปรับลุคได้หลากหลายมากนะคะ ใส่ได้ทั้งวันทำงาน วันพักผ่อน หรือแม้แต่ดินเนอร์กึ่งทางการ ถ้าเลือกทรง เนื้อผ้า และสีให้เหมาะกับตัวเอง รับรองว่าโปโลตัวเดียวก็ดูดีได้ไม่แพ้เชิ้ตเลยค่ะ!
ทรงเสื้อ (Fit): ต้องเข้ากับรูปร่างและลุคที่อยากได้
- Slim Fit — สำหรับลุคเนี้ยบและเน้นสรีระ
ถ้าคุณมีหุ่นเป๊เ ไหล่ชัด เอวคอดนิดๆ ทรงนี้จะช่วยขับรูปร่างให้ดูสมาร์ท เสื้อจะเข้ารูปแบบพอดีตัว แต่ไม่รัดแน่น ใส่คู่กับกางเกงชิโนหรือสแลค แล้วพับแขนเบาๆ — ลุคนี้จะดูเรียบแต่เท่ เหมาะทั้งวันทำงานและดินเนอร์ - Regular Fit — สำหรับลุคเรียบง่าย ใส่ง่ายได้ทุกวัน
ทรงนี้ใส่สบาย ไม่แนบตัวเกินไป เหมาะกับคนรูปร่างทั่วไป หรือคนที่อยากได้ลุคสุภาพแต่ไม่ต้องเนี้ยบเป๊ะ จะใส่ไปทำงานก็ได้ หรือใส่เที่ยวชิลๆ กับยีนส์ขากระบอกก็ดูดีได้เหมือนกัน - Relaxed Fit — สำหรับลุคชิลแต่ยังดูมีสไตล์
เหมาะกับวันลุยๆ วันหยุด หรืออากาศร้อนจัด เสื้อทรงหลวมช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก ใส่กับกางเกงขาสั้นหรือกางเกงผ้าเนื้อบาง แล้วแมทช์กับรองเท้าผ้าใบสีขาว — ได้ลุคหนุ่มสายลุยแบบไม่ทิ้งความเท่
เนื้อผ้า (Fabric): เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสภาพอากาศ
- Piqué Cotton — ลายผ้าถักนูนที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ใส่แล้วดูหรูแบบไม่ตั้งใจ
ผ้า Piqué เป็นผ้าโปโลคลาสสิกที่มีเท็กซ์เจอร์แบบถักลายนูนเล็กๆ สัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงความพรีเมียม ระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่น เหมาะกับวันที่อยากแต่งตัวดูดีแบบ Effortless ใส่กับกางเกงสแลคหรือกางเกงผ้าเนื้อเนียน แล้วหยิบแจ็คเก็ตมาทับบางๆ — ลุคนี้บอกเลยว่า Gentleman สุดๆ - Cotton 100% — เนื้อผ้านุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศดีเยี่ยม
เหมาะกับวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ใส่แล้วเย็นสบาย ไม่อับชื้น แมทช์กับกางเกงผ้าลินินหรือกางเกงคอตตอนสีอ่อน ก็จะยิ่งช่วยให้ลุคดูเบา สดใส เหมาะกับซัมเมอร์สุดๆ - CVC (Cotton + Polyester) — ดูแลง่าย ยับยาก ใส่ได้นาน
ถ้าคุณไม่อยากรีดบ่อยๆ หรือใส่ไปทำงานบ่อย ทนเหงื่อบ้าง CVC จะช่วยให้เสื้อไม่ยับง่าย คงรูปดี ใส่กับเบลเซอร์ก็ยังดูดีได้แบบมืออาชีพ - Dry Tech / Performance Fabric — เหมาะกับวันที่ต้องขยับตัวเยอะๆ
ในวันที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือแม้แต่เดินทางทั้งวัน ผ้าแบบนี้แห้งไว ระบายเหงื่อดี ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบเหงื่อหรือกลิ่นอับ ใส่กับกางเกงจ็อกเกอร์หรือยีนส์ทรงตรงก็ลงตัว
สไตล์และสี : เลือกให้ตรงบุคลิกและโอกาส
- สีพื้นเรียบ อย่างขาว เทา ดำ น้ำเงิน — ลุคเบสิคที่แมทช์ง่ายที่สุด
เสื้อโปโลสีพื้นเป็นตัวเลือกปลอดภัยที่สุด ใส่กับอะไรก็ดูดี จะใส่กับสูทก็เป๊ะปัง ใส่กับกางเกงยีนส์ก็ชิล ลองแมทช์สีเข้มกับกางเกงสีอ่อน เช่น เสื้อโปโลกรมท่ากับกางเกงครีม — ได้ลุค Smart Casual ง่ายๆ เลยค่ะ - ลายเล็กๆ อย่างลายขวาง หรือโลโก้เล็ก ๆ — เพิ่มลูกเล่นแต่ยังดูสุภาพ
สำหรับคนที่เบื่อเสื้อโปโลเรียบๆ การเลือกเสื้อโปโลที่มีลายเลฌกน้อย พอให้สนุกแต่ยังดูเรียบร้อย เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ใส่แล้วดูมีสไตล์แต่ไม่เวอร์ - โปโลแบบคลาสสิก (Classic Collar Polo)
ปกเสื้อแบบผ้าธรรมดา คัตติ้งเรียบๆ ใส่ง่ายที่สุด จะใส่แบบปล่อยชายเสื้อหรือสอดในกางเกงก็ได้ เหมาะกับทุกวัย - โปโลแบบโมเดิร์น (Modern Polo)
อาจเป็นทรงที่เข้ารูปขึ้น หรือใช้ผ้าแบบพิเศษ มีดีเทลบริเวณแขนหรือคอเสื้อ ใส่แล้วลุคดูทันสมัยมากขึ้น แมทช์กับกางเกงทรงเทเปอร์และสนีกเกอร์สวยๆ — เหมาะกับคนที่อยากได้ลุค Smart Cool
เคล็ดลับเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
- เลือกเสื้อโปโลที่ปกเสื้อยังตั้งสวย ไม่ย้วย ไม่หัก
- ไหล่เสื้อต้องพอดีกับหัวไหล่ของเรา
- ความยาวของชายเสื้อควรอยู่ประมาณครึ่งซิปกางเกง — ไม่สั้นไปจนลอย หรือยาวไปจนรุ่มร่าม
- ลองพับแขนเสื้อเบา ๆ หรือสอดเสื้อในกางเกงบางวัน ก็ช่วยเปลี่ยนลุคได้ง่ายมาก!
โดยสรุป เสื้อโปโลอาจดูเป็นเสื้อเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่อันที่จริงแล้วมันคือไอเทมสารพัดประโยชน์ที่ตอบโจทย์ได้หลายลุค ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายสายทำงานที่อยากได้ลุคสุภาพแต่ไม่ทางการจ๋า, สายลุยที่ต้องการเสื้อที่ระบายอากาศดี เคลื่อนไหวง่าย, หรือสายแฟชั่นที่อยากมิกซ์แอนด์แมทช์ลุคเท่ๆ แบบไม่พยายามเกินไป — เสื้อโปโลก็พร้อมรับบทบาทนั้นได้แบบไม่ขัดเขิน
แค่เลือกทรงที่เข้ากับรูปร่าง เนื้อผ้าที่เหมาะกับกิจกรรม และสีที่ใช่สำหรับคุณ แค่นี้ก็เปลี่ยนเสื้อโปโลให้กลายเป็น “ไอเทมสามัญประจำตู้” ที่หยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็รอด แบบไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ
สาขาที่ 1 : Siam Square One ชั้น 3 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 2 : Terminal 21 ชั้น 2 ติดบันไดเลื่อนฝั่ง H&M
สาขาที่ 3 : พระราม 3 หมู่บ้านอรุณพัฒน์ เส้นสาธุประดิษฐ์ตัดใหม่
สาขาที่ 4 : The Promenade ชั้น 1 บริเวณลานน้ำพุ
สาขาที่ 5 : Seacon Square ชั้น 2 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 6 : โครงการ One Nimman เชียงใหม่
สาขาที่ 7 : ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น G โซนเซ็นทรัล บริเวณลานน้ำพุ ใกล้กับร้านสตาร์บัค
สาขาที่ 8 : เดอะมอลล์โคราช ชั้น 1 ตึกใหม่ ตรงข้าม CPS CHAPS
สาขาที่ 9 : สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 3 ติดบันไดเลื่อน ข้างคลินิก Smile Seasons
สาขาที่ 10 : เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 1 ติดกับร้าน Charles&Keith ตรงข้ามร้าน Pandora
สาขาที่ 11 : เดอะเซอร์เคิลราชพฤกษ์ โซน South Trail Walk Way ตรงข้าม MK
สาขาที่ 12 : เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 1 บริเวณบันไดเลื่อนกลาง ตรงข้ามร้าน FOOT LOCKER
สาขาที่ 13 : รัชดา-สุทธิสาร ติด MRT สุทธิสาร ทางออกที่ 4
สาขาที่ 14 : โครงการ Bukis Phuket
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel: 021077777
LINE: @suitcube
Facebook: suitcube
Instagram: suitcube
Website: www.suitcube.com