เคยไหม เดินผ่านใครสักคนแล้วต้องเหลียวหลัง เพราะกลิ่นน้ำหอมเขาช่างน่าหลงใหลสุดๆ จนอยากรู้ว่า “กลิ่นนี้มันชื่อว่าอะไรนะ?” แต่พอไปที่ร้านน้ำหอมจริงๆ เจอกับชื่ออย่าง Bergamot, Vetiver, Tonka Bean ก็ได้แต่ยืนงงในดงคำศัพท์
ความจริงน้ำหอมไม่ได้แค่หอมเฉยๆ แต่มันมี “ภาษาของกลิ่น” ที่ใช้เรียกวัตถุดิบในการปรุงกลิ่นออกมา ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า Fragrance Notes หรือ “โน้ตของกลิ่น” นั่นเอง แค่รู้จักชื่อเหล่านี้ คุณก็จะเข้าใจได้มากขึ้นว่า “กลิ่นแบบที่ชอบ” คืออะไร และจะเลือกน้ำหอมยังไงให้ตรงใจ (หรือถูกจริตจมูก)
บทความนี้เราเลยรวมชื่อกลิ่นยอดฮิตที่มักพบได้ในน้ำหอมทั้งสายหวาน สายสดชื่น หรือสายเข้มขรึม มาให้รู้จักแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นนักปรุงก็อ่านรู้เรื่อง พร้อมเล่าให้ฟังว่า กลิ่นแบบนี้ให้อารมณ์ยังไง ใครน่าจะเหมาะ หรือเหมาะใช้ในโอกาสไหน พร้อมแล้ว… ไปสำรวจโลกของกลิ่นกันแบบสนุกๆ เลย!
Fragrance Notes คืออะไร?
ทำไมต้องรู้จักกลิ่นน้ำหอมในรูปแบบ “Note”
ถ้าเปรียบน้ำหอมเป็นบทเพลง “Fragrance Notes” ก็คือโน้ตดนตรีที่รวมกันออกมาเป็นทำนองกลิ่นที่เราดมอยู่นั่นแหละ! ใช่ค่ะ… น้ำหอมไม่ได้มีแค่กลิ่นเดียวจบ แต่เป็นการผสมผสานของกลิ่นหลายชั้น หลายอารมณ์ ที่เรียงลำดับกันอย่างมีศิลปะ การเข้าใจว่า Note ไหนทำหน้าที่อะไร จะช่วยให้เราเลือกกลิ่นที่เหมาะกับโอกาส บุคลิก และอารมณ์ของเราได้มากขึ้นค่ะ
Note ในโลกของน้ำหอม คือส่วนประกอบของกลิ่นที่เราจะได้กลิ่นแบบไล่ลำดับเวลา ตั้งแต่ตอนฉีดแรกๆ จนถึงกลิ่นที่ติดทนอยู่กับผิวเรานานหลายชั่วโมง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชั้นหลักๆ :
- Top Note – กลิ่นแรกที่รับรู้
กลิ่นที่เรารับรู้หลังฉีดน้ำหอมทันที เป็นกลิ่นที่จางเร็วจะอยู่กับเราไม่นาน ประมาณ 10–15 นาทีเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นสดชื่น เบา สดใส เช่น Citrus, Peppermint - Middle Note – กลิ่นหลัก
บางคนเรียกกลิ่นนี้ว่า “Heart Note” เพราะมันคือหัวใจหลักของน้ำหอม เป็นกลิ่นหลักที่แสดงตัวตนของกลิ่นทั้งขวด มักจะโผล่มาหลัง Top Note จางไป เช่น กลิ่นดอกไม้ Lavender, Rose, Geranium หรือกลิ่นผลไม้บางชนิด กลิ่นนี้จะอยู่กับเราประมาณ 1–2 ชั่วโมง - Base Note – กลิ่นที่อยู่ยาว
นี่คือกลิ่นที่ค่อยๆ โผล่มาทีหลัง แต่จะอยู่กับเรานานสุด เป็นกลิ่นที่ติดผิว กลิ่นที่คนใกล้ตัวจะได้กลิ่นเมื่ออยู่ใกล้ และเป็นตัวกำหนดบุคลิกของน้ำหอม มักเป็นกลิ่นที่ลึก เข้ม และอบอุ่น เช่น Vanilla, Musk, Sandalwood
🌈 รู้จัก “โลกของกลิ่น” ผ่าน Fragrance Wheel
เวลาที่เราลองน้ำหอม แล้วรู้สึกว่า “อันนี้หอมแบบสดชื่น” “อันนี้หอมหวานๆ เซ็กซี่” แล้วกลิ่นน้ำหอมทั้งหมดมันแบ่งหมวดยังไงนะ?” คำตอบก็คือ Fragrance Wheel หรือ “วงล้อกลิ่นหอม” นี่แหละค่ะที่ช่วยจัดระเบียบโลกแห่งกลิ่นให้เข้าใจง่ายขึ้น
Fragrance Wheel เป็นแผนภาพวงกลมที่แบ่งกลิ่นน้ำหอมออกออกเป็นกลุ่มต่างๆ คล้ายวงล้อสี ใช้เพื่อแสดงกลิ่นหลัก (Main Accord) ที่ใกล้เคียงกัน หรือที่สามารถจับคู่กันได้ และที่สำคัญ—ช่วยให้เราเข้าใจว่าเรา “ชอบกลิ่นแบบไหน” และ “ควรลองอะไรต่อ”
กลุ่มกลิ่นหลักใน Fragrance Wheel แบ่งได้เป็น 4 หมวด
1. Fresh (กลิ่นสดชื่น)
คาแรกเตอร์ : สะอาด สดใส เบาสบาย สดชื่นเหมือนลมตอนเช้า🌿
มักพบใน : น้ำหอม unisex หรือ daily scent ที่ไม่ฉุน
เหมาะกับ : คนที่ชอบความสบายๆ, บุคลิกเฟรนด์ลี่, หรือใช้ในอากาศร้อน
กลุ่มกลิ่นย่อยในหมวด Fresh
- Citrus – กลิ่นพวกส้ม มะนาว เบอร์กาม็อต และผลไม้ตระกูลซิตรัส กลิ่นที่เต็มไปด้วยความหวานเปรี้ยวแสนสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
- Green – กลิ่นใบไม้ หญ้า ชาเขียว สดเหมือนเดินในสวน
- Aquatic – กลิ่นน้ำ ทะเล ลม กลิ่นอากาศสะอาด
2. Floral (กลิ่นดอกไม้)
คาแรกเตอร์ : อ่อนหวาน นุ่มนวล โรแมนติก💐
มักพบใน : น้ำหอมผู้หญิง แต่ปัจจุบันยังมีการนำมาผสมผสานในน้ำหอมผู้ชายมากขึ้นด้วย เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและสร้างสมดุลให้กับกลิ่นที่เข้มข้น
เหมาะกับ : สายหวาน สายรักความสวยงาม สาวเฟมินีน
กลุ่มกลิ่นย่อยในหมวด Floral
- Single Floral – กลิ่นดอกไม้เด่นดอกเดียว เช่น กุหลาบ มะลิ
- Floral Bouquet – ผสมหลายดอกในขวดเดียว กลิ่นซับซ้อนขึ้น
- Aquatic – กลิ่นน้ำ ทะเล ลม กลิ่นอากาศสะอาด
3. Woody (กลิ่นไม้)
คาแรกเตอร์ : อบอุ่น มั่นคง สุขุม กลิ่นดินและไม้จากธรรมชาติมีมิติ 🌳
มักพบใน : น้ำหอมผู้ชาย และน้ำหอมแนว unisex
เหมาะกับ : คนที่ชอบความเท่ ลุคเรียบหรู มีเสน่ห์แบบ understated
กลุ่มกลิ่นย่อยในหมวด Woody
- Woods – กลิ่นไม้ตรงๆ เช่น Sandalwood, Cedarwood
- Mossy Woods – กลิ่นไม้ผสมมอส โอ๊คมอส ให้อารมณ์ป่าหลังฝน
- Dry Woods – กลิ่นไม้แห้ง กลิ่นควันเบาๆ ลึกลับ
4. Oriental (กลิ่นตะวันออก/ลึกลับ/หรูหรา)
คาแรกเตอร์ : ลึกซึ้ง หรูหรา เซ็กซี่ อบอุ่น ชวนหลงใหล🔮
มักพบใน : น้ำหอมสำหรับกลางคืน หรืองานทางการ
เหมาะกับ : คนที่อยากเพิ่มความดึงดูด มีเสน่ห์ น่าค้นหา
กลุ่มกลิ่นย่อยในหมวด Oriental
- Soft Oriental – อบอุ่นนิด ๆ วานิลลา แอมเบอร์ กลิ่นนุ่มนวล
- Oriental – กลิ่นแนวเครื่องเทศหนัก ๆ เช่นอบเชย กำยาน
- Woody Oriental – ผสมเครื่องเทศกับกลิ่นไม้ เข้มข้น หรูหรา
การผสมกลิ่น และ Fragrance Wheel คืออะไร?
Fragrance Wheel ไม่ใช่แค่แผนภาพสวย ๆ — แต่มันคือ “ไกด์ไลน์” สำคัญที่นักปรุงน้ำหอมใช้เวลาคิดสูตรกลิ่นใหม่ๆ เลยล่ะ!
เพราะมันช่วยบอกได้ว่า…
- กลิ่นไหน “เข้ากันได้ดี”
กลิ่นที่อยู่ใกล้กันบนวงล้อ (เช่น Floral + Fruity หรือ Woody + Oriental) มักผสมกันได้ง่าย เพราะมีคาแรคเตอร์ใกล้เคียงกัน ทำให้กลิ่นออกมากลมกล่อม ไม่ขัดกัน - กลิ่นไหน “ตัดกันได้อย่างน่าสนใจ”
กลิ่นที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (เช่น Fresh + Woody หรือ Citrus + Spicy) อาจจะต่างกันสุดขั้ว แต่เมื่อนำมาผสมในสัดส่วนที่เหมาะสม จะช่วยสร้าง “มิติ” หรือ “ความแตกต่างที่ลงตัว” ได้ - ช่วยในการจัดวางโครงสร้างกลิ่น (Top / Heart / Base)
Fragrance Wheel ยังช่วยเลือกกลิ่นสำหรับ Top Note (กลิ่นแรก), Heart Note (กลิ่นกลาง), และ Base Note (กลิ่นสุดท้าย) ให้แต่ละชั้นของกลิ่นมีบุคลิกชัดเจนและไหลลื่นไปด้วยกัน
วิธีเลือกกลิ่นน้ำหอมให้ใช่สำหรับคุณ
น้ำหอมก็เหมือนลายเซ็นของเรา — บางกลิ่นทำให้คนจำเราได้ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า การจะเลือกน้ำหอมสักกลิ่น บางครั้งมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกคนรัก เราอาจจะลองอยู่หลายกลิ่น ลองพิจารณาหลายแบบ แต่สุดท้ายเมื่อเจอกลิ่นที่ “ใช่” มันจะมีความรู้สึกบางอย่างกระซิบเบา ๆ ว่า “กลิ่นนี้แหละ…เป็นคุณเลย” แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า “กลิ่นไหนคือเรา?” ลองเริ่มจาก 5 ข้อนี้ดู :
เริ่มจากการรู้จักตัวเอง
เพราะกลิ่นน้ำหอมสามารถสะท้อนบุคลิกของเราได้อย่างชัดเจนเลยแหละ ลองนึกภาพง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นคาแรกเตอร์ตัวละครหนึ่งในหนัง — คุณจะเป็นสายเนี้ยบ สายคลีน ลุคเท่ลึกลับ หรือสายอบอุ่นใจดี? คำตอบนี้จะช่วยนำทางไปสู่กลิ่นที่เหมาะกับคุณได้ดีมาก ๆ เลย
- ถ้าคุณเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย ชอบอะไรเบา ๆ สดชื่น —
กลิ่นที่เหมาะกับคุณก็คือ กลิ่นแนวซิตรัส (Citrus), ฟลอรัล (Floral) หรือ กรีน (Green) ให้ความรู้สึกสะอาด สดใส สดชื่น เหมือนแสงแดดยามเช้า - สายสุขุม มีความมั่นใจ กลิ่นที่เหมาะกับคาแรคเตอร์แบบนี้คือแนว Woody อย่าง Vetiver หรือ Sandalwood ที่ให้ความรู้สึกเท่ เรียบ หรู ดูแพงแต่ไม่พยายามโชว์ตัวหรือกลิ่นแนว Aromatic ที่มีความสะอาด สดชื่นแบบผู้ชายมีวินัย เหมาะสำหรับใช้ได้ทุกวัน ไปจนถึงวันสำคัญที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
- สายอบอุ่น เข้าถึงง่าย ลองกลิ่นแนว Warm & Sweet อย่าง Vanilla, Tonka Bean หรือ Amber ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล ไม่แข็งกร้าว แต่ยังคงมีเสน่ห์น่าดึงดูดในแบบของตัวเอง
- สายลึกลับ มีเสน่ห์ ถ้าคุณเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบไม่ต้องพูดเยอะ รู้สึกว่าน้อยแต่มาก ชวนมอง ลองแนว Oriental, Amber หรือ Spicy กลิ่นเหล่านี้จะมีความหรูหรา อบอุ่น และเซ็กซี่ในแบบที่ไม่ต้องพยายาม
การเลือกน้ำหอมไม่ใช่แค่เรื่องของ “กลิ่นหอม” เท่านั้น แต่มันคือการเลือกสิ่งที่สะท้อนตัวตนของคุณออกมาอย่างมีสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายสุขุม เข้าถึงง่าย ลึกลับ หรือลุคสดใส การเข้าใจ Note ของกลิ่น, การผสมกลิ่น, และ Fragrance Wheel จะช่วยให้คุณเลือกกลิ่นที่ใช่ได้ง่ายขึ้น
อย่ากลัวที่จะลองกลิ่นใหม่ ๆ หรือผสมผสานกลิ่นที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อน เพราะบางที…น้ำหอมขวดนั้นอาจไม่ใช่แค่ “หอม” แต่เป็นเหมือน “ซิกเนเจอร์” ที่ทำให้คนจำคุณได้โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย
สาขาที่ 1 : Siam Square One ชั้น 3 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 2 : Terminal 21 ชั้น 2 ติดบันไดเลื่อนฝั่ง H&M
สาขาที่ 3 : พระราม 3 หมู่บ้านอรุณพัฒน์ เส้นสาธุประดิษฐ์ตัดใหม่
สาขาที่ 4 : The Promenade ชั้น 1 บริเวณลานน้ำพุ
สาขาที่ 5 : Seacon Square ชั้น 2 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 6 : โครงการ One Nimman เชียงใหม่
สาขาที่ 7 : ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น G โซนเซ็นทรัล บริเวณลานน้ำพุ ใกล้กับร้านสตาร์บัค
สาขาที่ 8 : เดอะมอลล์โคราช ชั้น 1 ตึกใหม่ ตรงข้าม CPS CHAPS
สาขาที่ 9 : สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 3 ติดบันไดเลื่อน ข้างคลินิก Smile Seasons
สาขาที่ 10 : เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 1 ติดกับร้าน Charles&Keith ตรงข้ามร้าน Pandora
สาขาที่ 11 : เดอะเซอร์เคิลราชพฤกษ์ โซน South Trail Walk Way ตรงข้าม MK
สาขาที่ 12 : เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 1 บริเวณบันไดเลื่อนกลาง ตรงข้ามร้าน FOOT LOCKER
สาขาที่ 13 : รัชดา-สุทธิสาร ติด MRT สุทธิสาร ทางออกที่ 4
สาขาที่ 14 : โครงการ Bukis Phuket
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel: 021077777
LINE: @suitcube
Facebook: suitcube
Instagram: suitcube
Website: www.suitcube.com